Skip to content

susankramer.org

Menu
Menu

ประวัติเกี่ยวกับการสัก ของประเทศญี่ปุ่น 

Posted on August 12, 2025 by admin

รอยสักในญี่ปุ่นมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม และการเมือง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การสักในญี่ปุ่นเริ่มต้นจากความเชื่อทางศาสนาและสังคมก่อนจะพัฒนาเป็นศิลปะและสัญลักษณ์ทางอัตลักษณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น

ยุคก่อนประวัติศาสตร์

ร่องรอยของการสักในญี่ปุ่นปรากฏหลักฐานมาตั้งแต่ยุค **โจมง** (14,000-300 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ซึ่งเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีการค้นพบภาพวาดบนตุ๊กตาดินเผาและฟอสซิลของมนุษย์ที่มีลายสักอยู่บนผิวหนัง ซึ่งคาดว่าการสักในช่วงเวลานั้นมีความเชื่อมโยงกับพิธีกรรมทางศาสนา การบูชาเทพเจ้า และการแสดงสถานะทางสังคม เช่น การเป็นนักรบหรือผู้นำชุมชน

 

ยุคนาราและเฮอัน (ค.ศ. 710-1185)

ในช่วงนี้ การสักเริ่มมีบทบาททางสังคมในรูปแบบของการลงโทษ ผู้ที่กระทำผิดทางอาญาจะถูกสักลายหรือสัญลักษณ์บนร่างกาย เพื่อให้ระบุได้ชัดเจนว่าเป็นผู้กระทำความผิด ทำให้ไม่สามารถกลับเข้ามาสู่สังคมได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังมีการใช้การสักในกลุ่มชนพื้นเมืองบางกลุ่ม เช่น ชาวไอนุ (Ainu) ที่สักเพื่อปกป้องจากสิ่งชั่วร้ายและบูชาเทพเจ้า

 

ยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868)

การสักในยุคเอโดะถือเป็นช่วงที่สำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์รอยสักในญี่ปุ่น เพราะเป็นยุคที่การสักกลายมาเป็นศิลปะการแสดงออกอย่างแท้จริง ศิลปะการสักแบบ **อิเรซึมิ** (Irezumi)

เกิดขึ้นในหมู่คนงาน ช่างไม้ และช่างฝีมือในเมืองใหญ่ เช่น โตเกียวและโอซาก้า รอยสักในยุคนี้มีความงดงามและซับซ้อน โดยเน้นลวดลายของธรรมชาติ เช่น มังกร ปลา และดอกไม้ ซึ่งแสดงถึงความกล้าหาญและความภาคภูมิใจในอาชีพหรือตัวตนของผู้ที่สัก

 

อย่างไรก็ตาม การสักในยุคนี้ยังถูกเชื่อมโยงกับกลุ่ม **ยากูซ่า** ซึ่งเป็นกลุ่มอาชญากรรมที่มีอิทธิพลในญี่ปุ่น การสักแบบเต็มตัวหรือครึ่งตัวที่เรียกว่า “โฮริ” (Hori) กลายเป็นเครื่องหมายของการเป็นสมาชิกในกลุ่ม และเป็นการแสดงถึงความกล้าหาญ ความจงรักภักดี และการยอมรับในกลุ่มยากูซ่า

 

ยุคเมจิ (ค.ศ. 1868-1912)

ในยุคเมจิ ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเริ่มเปิดประเทศสู่โลกตะวันตกและเริ่มทำการปฏิรูปประเทศ การสักถูกห้ามอย่างเป็นทางการเนื่องจากรัฐบาลต้องการให้ภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ทันสมัยและศิวิไลซ์ การสักในที่สาธารณะจึงถูกห้ามและถูกจำกัดให้เป็นเรื่องของกลุ่มยากูซ่าหรือคนใต้ดินเท่านั้น

 

ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง การสักในญี่ปุ่นกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง แต่ยังคงมีภาพลักษณ์เชิงลบอยู่ในสังคม เนื่องจากเชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรรมยากูซ่า แม้ว่ารอยสักจะเป็นศิลปะที่สวยงามและมีความซับซ้อน แต่ในสายตาของสังคมญี่ปุ่น รอยสักยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความน่ากลัวและการท้าทายกฎเกณฑ์ของสังคม

 

แม้ว่าปัจจุบันการสักจะเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และมีผู้คนรุ่นใหม่ที่สนใจการสักเพื่อแสดงออกถึงตัวตนและความคิดสร้างสรรค์ แต่รอยสักในญี่ปุ่นยังคงเผชิญกับข้อจำกัดทางสังคมอยู่ เช่น การห้ามผู้มีรอยสักเข้าบ่อน้ำพุร้อน (ออนเซ็น) ฟิตเนส หรือสระว่ายน้ำ เพราะยังคงมีภาพลักษณ์เชิงลบที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมและยากูซ่า

 

 

ผู้ให้การสนับสนุนโดย      เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน

Recent Posts

  • การขายธุปเทียน สามารถสร้างธุรกิจได้อย่างไร
  • ประวัติเกี่ยวกับการสัก ของประเทศญี่ปุ่น 
  • การพัฒนาตนเอง สุขภาพจิต และไลฟ์สไตล์

Categories

  • การพัฒนาตนเอง
  • ศิลปะการต่อสู้
  • สังคมสื่อสาร
  • เรื่องทั่วไป

Tags

การขายธุปเทียน การพัฒนาตนเอง ถ่านเครื่องช่วยฟัง ประวัติเกี่ยวกับการสัก เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน
© 2025 susankramer.org | Powered by Superbs Personal Blog theme