หลวงพ่อโสธร

หลวงพ่อโสธร

หลวงพ่อโสธร ประวัติความเป็นมา

หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญของชาวแปดริ้ว เป็นที่ยึดเหนียวจิตใจ และเมื่อมีเรื่องทุกข์ใจก็จะไปบนบานว่ากล่าว หรือขอร้องท่านให้เรื่องที่จะทำประสบผลสำเร็จ เมื่อในสมัยโบราณได้มีคนเล่าว่า หลวงพ่อพุทธโสธรได้ลอยน้ำมาด้วยกันสามองค์และเมื่อลอยน้ำมาได้มีชาวบ้านเห็นและอยากได้ให้ขึ้นมาประดิษฐาน ก็พยายามใช้เชือกคล้ององค์แล้วลากเข้าแต่ก็ไม่สำเร็จ ปละได้แสดงปาฎิหาริย์ ด้วยการลอยน้ำขึ้นมา และวันบริเวณนั้นมีการเรียกว่าวัดสามพระทวน และได้ลอยมาถึงหน้าบริเวณวัดโสธรในปัจจุบัน จึงได้จัดให้มีพิธีบวงสรวง และได้อัญเชิญขึ้นมาได้สำเร็จและเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวแปดริ้วตั้งแต่นั้นมา ส่วนพระอีก 2องค์ก็ได้ลอยไปปละได้มีการอัญเชิญขึ้นประดิษฐานที่วัดหลวงพ่อโต วักบางพลี ปละอีกองค์ได้ลอยน้ำไปไกลถึงสมุทรสงครามและได้ถูกอัญเชิญขึ้นประดิษฐานที่วัดบ้านแหลมและได้ชื่อว่า หลวงพ่อบ้านแหลมมาจนถึงปัจจุบัน

ปาฎิหาริย์ของหลวงพ่อโสธร

นามมาแล้วได้มีเรื่องเล่าว่าในสมัยนั้นได้เกิดมีการฝนแล้ง ข้าวยากหมากแพง และได้เกิดมีโรคระบาดและมีคนเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก บางคนก็ย้ายตัวเองออกจากเมืองนี้ บางคนที่ไปไม่ไหวก็ต้องนอนรอความตายกันเลย แต่ได้มีชายผู้หนึ่งที่ไม่มีหนทางไปไหน จึงเข้าไปในวัดหลวงพ่อได้จุดธูปบนบานขอความคุ้มของจากหลวงพ่อโสธร ให้ตนนั้นหายจากโรคภัยนี้ด้วยและได้นำเอาดอกไม้ที่แห้งแล้วในวัด ขี้ธูปที่อยู่ในกระถางและน้ำมนต์ของหลวงพ่อมาต้มกินจนมีอาการดีขึ้นและหายจากการเจ็บป่วย และได้มีการนำของไปถวายให้ท่านจัดให้มีการสมโภช จึงเป็นที่เรื่องลือในความศักดิ์สิทธิตั้งแต่นั้นมา มาจนถึงยุคปัจจุบันได้มีการบนบานหลวงพ่อพระพุทธโสธรกันอย่างมาก

มาจนถึงยุคปัจจุบัน ก็ยังได้ยินปาฎิหาริย์ของหลวงพ่อโสธรอยู่เรื่อยๆ ยังเรื่อคนขับแทกซี่ได้มีการรับผู้โดยสารไปส่งและได้เกิดการโดนลูกหลงเกิดขึ้น โดยการที่โดนยิงฝั่งคนขับกระสุนไม่ถูกใครในรถเลยสักคน และกระสุนได้ฝังอยู่ทางประตูคนขับ2นัดและโดนกระจกแตก1นัดและได้เฉียดตังเองไปห่างแค่10เซนเอง หลังจากรอกตายครั้งนี้แล้วได้บอกเล่าว่าตนนั้นได้แขวนพระพุทธโสธรรูปหล่อชองหลวงพ่อโสธรปี2500ไว้ติดตัวตลอดจึงทำให้รอดตายจากเหตุครั้งนี้ได้

เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ แต่ถ้าใครอยากหาหลวงพ่อโสธรไว้คุ้มครองก็ลองไปสักการบูชาได้ที่วัดโสธร เพราะมีหลายรุ่นหลายแบบให้ได้เลือกมาบูชา

 

Continue Reading

ประวัติความเป็นมาของวัดมหาธาตุ

วัดมหาธาตุ

วัดมหาธาตุ เชื่อว่าผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยคงจะเคยขับขี่รถยนต์ผ่านมาทางวัดมหาธาตุ

วัดมหาธาตุ หรือแม้กระทั้งบางคนบางทีก็อาจจะเคยเข้าไปเคารพบูชาขอพรพระพุทธรูปที่อยู่ข้างในวัดซึ่งเดี๋ยวนี้วัดมหาธาตุถูกจัดให้เป็นโบราณสถานที่มีอายุดั้งเดิมมากยิ่งกว่าร้อยปี แรกเริ่มวัดมหาธาตุเคยเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับจัดงานพิธีการต่างๆของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในยุคนั้นถัดมาได้มีการกำเนิดสงครามวัดมหาธาตุได้ถูกทหารของฝั่งศัตรูก่อไฟเผา ทำศิลป์ข้างในวัดรวมทั้งเจดีย์ต่างๆได้รับความเสื่อมโทรม แปลงเป็นซาก

 ซึ่งเดี๋ยวนี้พลเมืองที่เข้าไปด้านในวัดมหาธาตุชอบไปเพื่อเล่าเรียนเกี่ยวกับที่ไปที่มาของโบราณกาลด้วยเหตุว่าวัดที่นี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พุทธศักราช 1917 โดยถูกผลิตขึ้นโดยสมเด็จพระบรมราเชนทร์ที่ 1 แต่ว่าท่านทรงเสด็จสิ้นพระชนม์ซะก่อน ทำให้ที่วัดนี้ยังสร้างไม่ทันเสร็จแต่ว่าถัดมาในยุคของพระกษัตริย์ก็ได้ให้ช่างฝีมือกลับมาสร้างวัดที่นี้ต่อจนถึงเสร็จรวมทั้งเปลี่ยนเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระบรมสารีริกธาตุด้วย

 เพราะวัดที่นี้ถูกทำกึ่งกลางจิตใจของเมือง ด้วยเหตุนี้ในยุคกรุงศรีอยุธยา พระกษัตริย์ก็เลยทรงใช้วัดนี้สำหรับเพื่อการจัดพระพิธีต่างๆและที่วัดมหาธาตุนี้นับได้ว่าเป็นวัดดั้งเดิมอีกวัดที่มีอยู่คู่กับจังหวัดอยุธยามาอย่างยาวนาน ผ่านการใช้แรงงานจากพระมหากษัตรอีกมายหลายพระองค์ รวมทั้งผ่านการสู้รบมานับจำนวนครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่กรุงศรีอยุธยาเสียกรุงครั้งลำดับที่สอง เมียนมาร์ได้ทำการจุดไฟเผาวัดหลายวัดในเมืองกรุงศรีทิ้งและหนึ่งในวัดที่ถูกจุดไฟเผาเป็นวัดมหาธาตุ 

ปัจจุบันนี้ความสวยงามที่เคยมีเปลี่ยนเป็นเหลือแค่ซากที่หักพังทลายแต่ว่าก็ยังสามารถแลเห็นความงามที่เคยมีมาในสมัยก่อนได้ สำหรับที่วัดมหาธาตุนี้มีสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากร่วมกัน มันก็คือ พระปรางค์ที่มีขนาดใหญ่แต่ว่าตอนนี้ไม่สามารถที่จะหาดูได้แล้วด้วยเหตุว่าได้พังไปแล้ว , เจดีย์แปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สร้างต่างจากวัดที่แห่งไหนมีเพียงแต่ตรงนี้ที่เดียวในโลก

 โดยจะมีทั้งหมดทั้งปวง 4 ชั้นร่วมกัน , วิหารที่ฐานจุกชี ซึ่งตรงนี้ตามประวัติเล่าว่าเคยมีคนเคยมาแอบเข้ามาลักลอบขุดเพื่อทำการขุดหาทรัพย์สมบัติแต่ว่าไม่สามารถที่จะเจาะจงได้ว่าขโมยที่มาขุดขโมยทรัพทย์สินนั้นได้อะไรไปบ้างหรือไม่แต่ว่าทางกรมศิลป์ได้มาขุดหาเพิ่มซึ่งได้เจอกับของเก่าที่มีการนำมาซุกซ่อนไว้อยู่มาก , วิหารขนาดเล็กเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาเที่ยวดูเนื่องจากจะมีรากไม้รากเลี้อยพันรอบเศียรของพุทธรูปเอาไว้ , พระปรางค์ขนาดกึ่งกลาง และก็พระราชวังสมเด็จพระสังฆราช 

โดยที่มีการตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามในสมัยก่อน สำหรับในการเข้ามาเคารพบูชาวัดมหาธาตุจะเปิดให้ประชาชนได้เข้าเยี่ยมชมได้ตั้งแต่เวลา 08.30 -16.30 น. โดยไม่มีค่าใช้จ่ายซึ่งตอนนี้ที่วัดที่นี้ผู้ที่รักในศิลป์ความสวยงามชอบเข้ามาวาดภาพหรือมาถ่ายภาพรวมทั้งเป็นสถานที่ทรรศนะศึกษาเล่าเรียนของเหล่าผู้เรียน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เว็บบาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

Continue Reading