รอยสักในญี่ปุ่นมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม และการเมือง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การสักในญี่ปุ่นเริ่มต้นจากความเชื่อทางศาสนาและสังคมก่อนจะพัฒนาเป็นศิลปะและสัญลักษณ์ทางอัตลักษณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ร่องรอยของการสักในญี่ปุ่นปรากฏหลักฐานมาตั้งแต่ยุค **โจมง** (14,000-300 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ซึ่งเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีการค้นพบภาพวาดบนตุ๊กตาดินเผาและฟอสซิลของมนุษย์ที่มีลายสักอยู่บนผิวหนัง ซึ่งคาดว่าการสักในช่วงเวลานั้นมีความเชื่อมโยงกับพิธีกรรมทางศาสนา การบูชาเทพเจ้า และการแสดงสถานะทางสังคม เช่น การเป็นนักรบหรือผู้นำชุมชน ยุคนาราและเฮอัน (ค.ศ. 710-1185) ในช่วงนี้ การสักเริ่มมีบทบาททางสังคมในรูปแบบของการลงโทษ ผู้ที่กระทำผิดทางอาญาจะถูกสักลายหรือสัญลักษณ์บนร่างกาย เพื่อให้ระบุได้ชัดเจนว่าเป็นผู้กระทำความผิด ทำให้ไม่สามารถกลับเข้ามาสู่สังคมได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังมีการใช้การสักในกลุ่มชนพื้นเมืองบางกลุ่ม เช่น ชาวไอนุ (Ainu) ที่สักเพื่อปกป้องจากสิ่งชั่วร้ายและบูชาเทพเจ้า ยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) การสักในยุคเอโดะถือเป็นช่วงที่สำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์รอยสักในญี่ปุ่น เพราะเป็นยุคที่การสักกลายมาเป็นศิลปะการแสดงออกอย่างแท้จริง ศิลปะการสักแบบ **อิเรซึมิ** (Irezumi) เกิดขึ้นในหมู่คนงาน ช่างไม้ และช่างฝีมือในเมืองใหญ่ เช่น โตเกียวและโอซาก้า รอยสักในยุคนี้มีความงดงามและซับซ้อน โดยเน้นลวดลายของธรรมชาติ เช่น มังกร ปลา และดอกไม้ ซึ่งแสดงถึงความกล้าหาญและความภาคภูมิใจในอาชีพหรือตัวตนของผู้ที่สัก อย่างไรก็ตาม…