ฝน1ห่ามีปริมาณน้ำมากแค่ไหน

ในช่วงที่เป็นช่วงฤดูที่มีการเดินทางยากลำบากนั้นก็คือหน้าฝนนั่นเอง เพราะในช่วงหน้าในของประเทศไทยนั้นจะเป็นช่วงที่มีการตกของฝนค่อนข้างจะหนักและจะตกในทุกๆวันและเราอาจจะเคยได้ยินกับคำว่า ห่า เมื่อมีการพูดถึงหรือกล่วถึงโดยใช้คำนี้ในช่วงที่มีการตกของน้ำฝนนั่นเอง ถึงแม้จะเป็นคำที่ไม่ได้มีการนิมยมใช้ในปัจจุบันแล้วแต่ถ้าหากเรานั้นได้มีโอกาศไปพูดคุยกับพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายหรือคนที่เกิดในยุคก่อนหน้านี้นั้นก็อาจจะได้ยินคำพูดที่ว่า วันนี้นั้นฝนตกห่าใหญ่เลย ซึ่งคำว่าห่านั้นเป็นคำที่มีความหมายและบ่งบอกถึงปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมานั่นเอง

เรื่องของการตกของฝนนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาอย่างช้านาน เพราะถเหากไม่มีการตกของฝนเราก็ไม่สามารถที่จะทำการเพาะปลูกสิ่งต่างๆได้ดังนั้นตั้งแต่ในสมัยโบราณจนมาถึงปัจจุบันก็จะต้องมีการวัดปริมาณน้ำฝนต่อครั้งที่ฝนมีการตกเพื่อให้ทราบถึงปริมาณการตกของฝนในแต่ละช่วงแลเพื่อเป็นสิ่งที่จะสามารถบอกว่าช่วงไหนคือช่วงที่เหมาะกับการเพาะปลูกหรือการบ่งบอกว่าในช่วงไหนจะมีฝนตกปริมาณเท่าไหร่เพื่อการเตรียมตัวในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน

ซึ่งในสมัยก่อนที่ยังไม่มีเทคโนโลยีต่างๆ คนสมัยก่อนก็จะต้องมีมาตราในการวัดปริมาณน้ำฝน ซึ่งมาตราในการวัดก็คือมตราห่านั่นเอง โดยการวัดนั้นก็จะวัดว่า วันนี้ฝนตก1ห่า วันนี้ฝนตก2ห่า หรือปีนี้ฝนจะตก500ห่าเป็นต้น ซึ่งคำนี้นั้นมักจะได้ยินในช่วงสงกรานต์อยู่บ่อยๆเพราะในแต่ละปีนั้นก็จะมีการพยากรณืถึงทรัพยากรต่างๆ เช่นปีนี้จะมีน้ำท่าที่อุดมสมบูรณ์เพราะจะมีฝนตก500ห่าอะไรประมาณนี้ ซึ่งในสมัยก่อนนั้นต้องบอกเลยว่าคนในสมัยก่อนไม่รู้จะวัดปริมาณน้ำในด้วยวิธีไหนคือเราไม่สามารถไปกวาดเพื่อเอาน้ำทั้งหมดที่ตกลงมานั้นมาวัดเป็นปริมาตรได้ 

ดังนั้นคนในสมัยก่อนจะใช้วิธีโดยการนำภาชนะบางอย่างมาวางในขณะที่ฝนตกเพื่อรองน้ำฝนและสังเกตว่าในขณะที่ฝนตกลงมาในภาชนะนั้นใช้เวลานานแค่ไหนที่น้ำจะเต็มภาชนะนั้นซึ่งก็จะนับเป็น 1 หน่วยและมีการตกลงร่วมกันในคนสมัยโบราณว่าจะใช้ภาชนะที่มีการนับเป็นหนึ่งหน่วยก็คือบาตรพระเพราะเป็นภาชนะที่ค่อนข้างจะมีขนาดที่แน่นอนและมีการเลือกบาตรที่มีขนาดกลางมาใช้ในการวัดปรมาณน้ำฝนนั่นเอง โดยการนำบาตรพระไปตั้งในที่กลางแจ้งและเมื่อในตกลงมาและสังเกตว่าในนั้นเต็มบาตรหรือยังและเมื่อไหร่ก็ตามที่ในนั้นตกลงมาในบาตรจนเต็มก็จะนับจำนวนนี้ว่า 1 ห่า นั่นเอง

แต่ในปัจจุบันการวัดน้ำฝนนั้นจะใช้เครื่องวัดน้ำฝนก็คือ Rain Gauge  ซึ่งก็จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นแทท่นและมีสิ่งที่สำหรับกักเก็บและวัดปริมาณหน้าตาเป็นหระบากที่มีทรงสูงและเปิดหัวไว้เพื่อให้น้ำฝนที่ตกลงมานั้นสามารถวัดเป็นปรืมาณน้ำฝนได้ซึ่งก็จะมีหน่อยนับเป็นมิลลิลิตรนั่นเองซึ่งจะมีความแม่นยำมากกว่าในสมัยก่อนและสามารถยำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการพยากรณ์อากาศและการตกของฝนได้อย่างแม่นยำด้วย

 

สนับสนุนโดย  gclub ฟรีสปิน

Share:

More Posts

Send Us A Message

We Are Here To Assist You

contact us today

© 2019 All Rights Reserved