การพักผิวหน้าคืออะไร ?

การพักผิวหน้า

การพักผิวหน้า นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้ผิวหน้าของเราที่ถูกทำร้ายจากการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีเป็นส่วนผสมต่าง ๆได้พักผ่อน การพักหน้านั้นจะช่วยทำให้ผิวของเราได้ฟื้นฟูตัวเอง โดยการหยุดใช้เครื่องสำอางทุกชนิดในการแต่งหน้า หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีเป็นส่วนผสม และเราจะเห็นได้ถึงผลลัพธ์หลังจากการพักผิวหน้าว่าผิวหน้าของเราดูสดใสขึ้น

การใช้เครื่องสำอางในทุก ๆวันเป็นระยะเวลานาน ๆจะทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกบนใบหน้า และกลายเป็นสิวอุดตัน ถึงแม้ว่าเราจะล้างเครื่องสำอางออกอย่างหมดจดแค่ไหน ถึงอย่างไรก็ยังคงต้องมีสิ่งที่ตกค้างยู่ และการดูดซึมเข้าไปในผิวของเครื่องสำอางในระหว่างวันก็เป็นการทำร้ายผิวหน้าเช่นกัน ดังนั้นหากเรางดการใช้เครื่องสำอางเป็นระยะเวลา 4-7 วัน จะช่วยทำให้ผิวหน้าของเราขจัดสิ่งตกค้างของเครื่องสำอางออกได้อย่างหมดจด และผิวหน้าก็จะดูกระจ่างใสขึ้นนั่นเอง

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีต่าง ๆบนผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นครีมที่ใช้หรือการทำทรีทเม้นท์บนผิวหน้าต่าง ๆล้วนแต่เกิดการสะสมของสารเคมีบนใบหน้า ในระยะแรกอาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าพอใจ แต่หากเราไม่มีการพักผิวหน้าจากสารเคมีบ้าง จะทำให้เกิดผลกระทบในระยะยาว เช่น อาจเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำจากการตกค้างของสารเคมีได้

การพักหน้าทำได้ง่าย ๆโดยการหยุดการใช้เครื่องสำอางในการแต่งหน้า และผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีทุกชนิด ในการล้างหน้าใช้เพียงแค่โฟมล้างหน้าที่ใช้เป็นประจำทุกวันก็เพียงพอแล้ว และก่อนออกจากบ้านก็ใช้เป็นครีมกันแดดสูตรบางเบา เพื่อป้องกันรังสี UV จากแสงแดดไม่ให้ทำร้ายผิวหน้ามากจนเกินไปเพียงเท่านี้ก็เป็นการพักผิวหน้าแล้ว หรือหากอยากมีการบำรุงผิวหน้าในขณะการพักผิวหน้าก็อาจเลือกใช้เป็นสมุนไพรที่มาจากธรรมชาติในการบำรุง อาทิ เช่น น้ำผึ้ง มะนาว มะเขือเทศ แตงกวา ฯลฯ เป็นต้น ก็สามารถทำได้ในขณะการพักผิวหน้า เพราะสมุนไพรที่มาจากธรรมชาติจะไม่ทิ้งสิ่งตกค้าง และผลข้างเคียงใด ๆกับผิวหน้าอย่างแน่นอน และยังปลอดภัย เกิดอาการแพ้ได้ยากอีกด้วย สามารถใช้ได้ในทุกสภาพผิวไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีผิวมัน ผิวแห้ง ผิวธรรมดา และผิวผสม ส่วนแป้งที่ใช้ในการทาเพื่อให้ผิวหน้าลื่นไม่เหนียวเหนอะหนะนั้นควรเป็นแป้งฝุ่นที่ใช้สำหรับเด็กจะดีที่สุด เพราะไม่ก่อให้เกิดสารตกค้าง และสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน และควรหลีกเลี่ยงการใช้แป้งตลับในการทาผิวหน้าในช่วงของการพักหน้า

หลังจากการพักผิวหน้า 4-7 วันแล้วจะเห็นได้ถึงผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก เมื่อแต่งหน้าจะรู้สึกได้ทันทีว่าเครื่องสำอางนั้นติดทนบนใบหน้าได้ง่ายกว่าปกติ และใบหน้ายังดูมีความกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ที่สำคัญก็คือสิวต่าง ๆยังลดลงอีกด้วย ควรมีการพักผิวหน้าเป็นประจำเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อผิวหน้าที่ดีของเรา

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  Sexy Gaming

Continue Reading

City Hall ช็อปปิ้งมอลล์สุดเอกซ์คลูซีฟ

มอลล์สุดเอกซ์คลูซีฟ

มอลล์สุดเอกซ์คลูซีฟ City-Hall RAFFLE HOTEL ARCADE ช็อปปิ้งมอลล์สุดเอกซ์คลูซีฟ ภายในอาคารอนุรักษ์สีขาวแห่งนี้เป็นที่ตั้งของแบรนด์ดังและร้านอาหารมากมายเลย มาได้ง่ายๆ แค่ลงสถานี Esplande ทางออก F เปิดทุกวัน 10.00 ถึง 19.00

 เรามาพูดถึงร้าน Raffles Hotel Gifts Shop เป็นร้านขายของที่ระลึกของโรงแรมระดับตำนาน Raffles Hotel สินค้าหลายชิ้นดูน่าใช้และซื้อหามาสะสม โดยมีไฮไลต์เป็นนาฬิกา Jaeger-Le Coultre รุ่นที่ออกแบบสำหรับฉลองครบรอบ 125 ปีของโรงแรม สินค้าอื่นๆที่น่าสนใจยังมีกระเป๋าผ้าและกระเป๋าถือที่ได้บาร์บารา ริห์ล Barbara Rihi ดีไซเนอร์กระเป๋าชื่อดังจากปารีสมาช่วยออกแบบให้อีกด้วย ถ้าไม่ใช่ Raffles Hotel คงไม่สามารถผลิตสินค้าเก๋ได้ถึงเพียงนี้แน่นอน ที่นี่ก็เปิดทุกวันตามเวลาร้านอาหารที่โรงแรมเลย 10.00 ถึงทุ่มนึง

Front Row เป็นร้านขายสินค้าแฟชั่นรวมแบรนด์ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันดีของแฟชั่นนิสต้าสิงคโปร์ เจ้าของร้านเป็นลูกครึ่งไทยกับสิงคโปร์ เธอเลยนำเข้าหลายแบรนด์ดังจากบ้านเรา เช่น Fly Now และ Ek Thongprasert ถึงแม้ในวันนี้จะมีหลายร้านขายสินค้ารูปแบบใกล้เคียงกัน แต่ Front Row ก็ยังเป็นแถวหน้าของแฟชั่นนิสต้าสิงคโปร์สมชื่อ ร้านนี้จะเปิดทุกวันตอนเที่ยงถึงสองทุ่มนะจ่ะ

Sunny Hills เป็นร้านเค้กสับปะรดที่อร่อยระดับโลกเลย เราเห็นโปสเตอร์ของร้านติดอยู่ที่ชั้นล่างจึงสาวเท้าขึ้นไปทันที Sunny Hills เป็นแบรนด์ดังจากไต้หวันและเปิดเพียงสาขาเดียวในสิงคโปร์ เป็นขนมที่ชาตินี้ต้องลองกินสักครั้ง ถึงแม้ว่าสำหรับคนไทยคงเหมือนขนมปี๊บ แต่เกรดมันต่างกันมากๆ ภายในร้านขายสินค้าสามอย่าง ได้แก่ เค้กสับปะรด น้ำสับปะรด และชาอูหลงร้าน

ลูกค้าหลายคนจึงแอบหนีความวุ่นวายมานั่งจิบชาละเลียดเค้กสับปะรดของที่นี่ ช่วงเทศกาลจะขายดิบจายดีมากๆ กล่องละ 15-50 เหรียญ เก็บไว้ได้นานถึงสองสับปะดาห์เลย แต่ก็แต่นำให้กินเร็วๆ จะได้ไม่เสียรสชาติ ร้านนี้ในวันอังคารถึงเสาร์จะเปิดเวลา 11.00 ถึงสองทุ่ม แต่วันอาทิตย์กับจันทร์นั้นจะเปิดถึงแค่หกโมงเย็นเท่านั้น เป็นการเปิดปิดที่แปลกๆหน่อย 

 

Continue Reading

เมื่ออากาศที่ร้อนเราก็ต้องหาวิธีในการคลายร้อน  

การคลายร้อน

การคลายร้อน เมื่อเราต้องพูดถึงหน้าร้อนหลายคนนั้นรู้สึกเหมือนว่าตัวเองแทบไม่อยากที่จะให้เกิดขึ้นเพราะว่าอากาศที่ร้อนทำให้เรารู้สึกมีเหงื่อที่ออกและทำให้เรามีกลิ่นตัว  รวมไปถึงการที่เราต้องเป็นสิว  ไปไหนก็มีอากาศที่ร้อนทำให้เรารู้สึกว่าเราเกิดอารมณ์หยุดหงิด เข้าไปอีกทั้งทำให้เรารู้สึกไม่อยากที่จะพูดคุยกับใครเพราะว่าเราเกิดอาการที่หงุดงิดเพราะว่าอากาศที่ร้อนทำให้หลายคนรู้สึกว่าบ้านเรามีแต่อากาศที่ร้อนเราก็ต้องทำตัวให้รู้สึกว่าเราอารมณ์ดีและพยายามที่จะไม่เครียดเพราะว่าถ้าเราเครียดจะทำให้เราควรที่จะหาอะไรทำให้เราไม่เครียดและทำให้เรารู้สึกว่าเราอารมณ์ดี  และก็หาวิธีในการที่เราคลายร้อนกัน  

       วิธีการที่เราคลายร้อน  เมื่อเราอยู่บ้านโดยที่เราไม่ได้มีแอร์เราก็ต้องทำตัวให้เราคลายร้อนอย่างเช่นการที่เราเล่นน้ำลงเล่นน้ำในอ่างกับลูกๆอย่างน้อยๆเราจะได้สร้างความสัมพันธุให้กับครอบครัวอีกด้วย    .

หรือว่าเราจะหาวิธีในการที่คลายร้อนอย่างเช่นการที่เราหาอะไรกินเย็นอย่างเช่นไอติม  หรือว่าน้ำแข็งใสอย่างนี้เป็นต้นหรือว่าเราจะกินไอติมปั่น  หรือว่าน้ผลไม้ปั่นอย่างนี้เป็นต้น  เพราะว่าการที่เรากินอะไรที่เย็นก็สามารถที่จะคลายร้อนเราได้  และอีกอย่างเราจะได้ไม่เกิดอารมณ์ที่แปรปวนด้วยเพราะว่าการที่เราไม่ยอมที่จะกินไอติมหรือว่าของเย็นก็อาจจะทำให้เรารู้สึกว่าไม่ชื่นใจ 

แต่ถ้าเราต้องการที่จะขายของเย็นเพื่อที่จะเป็นอาชีพเสริมนั้นก็ได้เราก็ขายที่หน้าบ้านของเรานั้นก็ได้เพราะว่าการที่เราขายของเราก็จะได้เงินเพิ่ม หรือว่าเราก็จะได้กินของที่หวานและเย็นนั้นด้วย  เปรียบเหมือนทำกินเองแถมได้ขายด้วย

         หรือเราจะเลือกวิธีในการที่เราประหยัดหน่อยแบบที่เราไม่ต้องเปิดแอร์อย่างเช่นการที่เราทำน้ำฝนที่บนหลังคา  เราก็จะได้อากาศที่เย็นและเหมือนว่าบ้านของเรามีบ้านเดียวที่ฝนนั้นตก  ทำให้เราเย็นและทำให้ใครที่ขับรถผ่านมานั้นก็จะได้บ้านที่เย็นตามมาด้วย  และเราเชื่อว่าการที่เราเอาน้ำติดบนหลังคาจะช่วยในเรื่องของการที่เราคลายความร้อนนั้นได้เลย

   แต่ว่าการที่เราเอาน้ำติดบนหลังคาเราต้องเสียกับค่าน้ำที่เราเปิดทำน้ำนั้นไหลแต่ถ้าเราทำเป็นน้ำที่เปิดไหลมาจากบนหลังคาแล้วเอาน้ำนั้นไปรถต้นไม้นั้นเราก็จะได้ทั้งสองต่อเลย

 

Continue Reading

เวียร์ ศุกลวัฒน์ หนึ่งในดาราที่เลิกบุหรี่ได้จริง

ดาราที่เลิกบุหรี่ได้จริง

ดาราที่เลิกบุหรี่ได้จริง ยังเป็นที่เห็นหน้าเห็นตากันอยู่ตลอด กับข่าวเยอะแยะมากมายไม่มีหมดจริงๆ มีทั้งเรื่องดีๆ แล้วก็เรื่องซุบซิบนินทา อย่างไรก็ตาม พี่เวียร์ ดาราผู้ได้รับบทเป็นพระเองหลายต่อหลายเรื่อง ก็ได้พบรักกับดาราสาวระดับท็อปๆของประเทศอยู่ตลอดเว ช่างหน้าอิจฉายิ่งนัก ยิ่งล่าสุดก็เป็นคู่กับเบลล่า ดาราหญิงสาวที่ฮอตที่สุดจากหนังที่ดังจนฉุดไม่อยู่อย่างเรื่อง บุพเพสันนิวาส ที่ทำเอาคนทั้งประเทศต่างคลั่งดูกันแบบเป็นบ้าเป็นหลัง ติดหนึบยิ่งกว่าการติดซีรี่ย์เก่าหลีซะอีก จะไม่ให้คนไทยทั้งประเทศอิจฉาได้ยังไงกันล่ะ

เพราะคนไทยทั้งประเทศกำลังหลงนางเอกเบลล่าผู้นี้อย่างหัวปักหัวปำเลยยังไงล่ะ แต่ก็ไม่วายมีข่าวแย่ๆเรื่องมือที่สามซะอย่างนั้น ทำเอาหนุ่มทั้งประเทศจะโมโหมากเลยท่าท่านพระเอกสุดหล่อทั้งสาวคนนี้ได้ลงคอ แต่สุดท้ายก็คลีคลายไปได้ด้วยดีนะ

แล้วพี่เวียร์ของเรานี้ ไปเริ่มติดบุหรี่จากไหนล่ะ ก็พูดยากนะ ดาราสุดป๊อปของประเทศ ติดเที่ยวติดสังสรรค์อย่างแน่นอน แล้วนั้นก็ทำให้เขาคนนี้กลายเป็นคนที่ ดื่มหนักและสูบหนักมากคนนึงเลยทีเดียว เขานั้นมีปัญหาเรื่องการดื่มและการสูบอยู่มานานมากแล้ว เรียกได้ว่าไม่ต้องนับกันเลยว่าสูบกันมาทั้งหมดกี่ปี แต่ก็เยอะพอที่จะทำให้พี่เวียร์ของเราเริ่มรู้ตัวแล้วว่า การสูบบุหรี่นั้นมันสร้างปัญหาทั้งทางด้านร่างกายกับทางด้านการทำงานอย่างมากเลยทีเดียว ในเรื่องร่างกายใครๆที่ได้ทำงานกับพระเองสุดหล่อของเราแล้วบอกว่า เขานั้นมีกลิ่นปากที่ไม่น่าเข้าใกล้มากๆ

เพราะบุหรี่นั้นแหละ แล้วลองนึกดูท่าพี่แกกำลังแสดงหนังแล้วมีกลิ่นนี้ ก็กลายเป็นการทำให้นางเอกของเรานั้นไม่อยากร่วมฉากเลิฟซีนกับพระเอกของเราอย่างนั้นแน่นอนเลย นั้นทำให้เขานั้นก็ได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เพื่อทั้งสุขภาพและทั้งการงาน การเข้าฉากที่จะไม่ทำให้เขานั้นโดนคนในกองรังเกลียด และกล้าพอที่จะเข้าใกล้ร่วมฉากด้วย แต่ในที่สุดแล้วพี่เวียร์ของเราก็ทำได้ เขาก็ได้เลิกบุหรี่ได้จริงๆ จากแรงพลักดันด้านการใช้ชีวิตที่เขาตระหนักได้ถึงปัญหาที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเขานั้นไม่สามารถเผิกเฉยต่อไปได้

ก็ถือเป็นตัวอย่างที่ดีๆมากๆ ที่เป็นการนำการใช้ชีวิต และการงาน มาทำให้เรื่องการเลิกบุหรี่นั้นเป็นจริงๆได้ ซึ่งเอาจริงๆแล้วอาจจะยากมากกว่าการโดนครอบครัวบังคับนะ

 

สนับสนุนเรื่องราวต่างๆโดย  จุดอ่อนบาคาร่า

Continue Reading

รู้ไหมว่าทำไมเราต้องเรียนให้หนักมากขึ้น

ต้องเรียนให้หนักมากขึ้น

ต้องเรียนให้หนักมากขึ้น สังคมไทยในปัจจุบันมีการแข่งขันด้านการศึกษาสูงมาก

ต้องเรียนให้หนักมากขึ้น ดังจากทีเราเห็นว่าเด็กเด็กจะต้องไปเรียนพิเศษเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้มากกว่าเด็กคนอื่นอื่น เพื่อที่ตัวเองจะได้มีโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษาทีคิดว่าดีและมีชื่อเสียง เพื่อเป็นการต่อยอดให้อนาคตที่ดีในภายภาคหน้า เด็กบางคนตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียน เรียนเสร็จแล้วก็ต้องไปเรียนพิเศษต่อ วันเสาร์และวันอาทิตย์ก็ไม่ได้หยุดพักเพราะต้องเรียนพิเศษอีก เรียกได้ว่าใน 7 วันนี้ตั้งแต่วันอาทิตย์ มาจนถึงวันเสาร์ เด็กนักเรียนบางคนไม่เคยได้หยุดพักผ่อนเลย มีแต่เรื่องเรียนเท่านั้น ซึ่งทำให้อยากรู้ว่าเด็กเหล่านั้น

พวกเขาเคยมีคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่าเขาเรียนไปเพื่ออะไร   ทำไมพวกเขาต้องทุ่มเทมากมายขนาดนั้นในการเรียน เคยลองเปรียบเทียบการเรียนในอดีตกับปัจจุบันไหมว่าแตกต่างกันมากแค่ไหน โดยในอดีตนั้นการเรียนของเด็กไม่ได้เคร่งเครียดมากมายขนาดนี้ เด็กนักเรียนเรียนเฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์และเข้าเรียนเวลา 08.00 -15.30 น. เท่านั้น

ส่วนหลังจากนั้นก็พากันกลับบ้าน บ้างก็ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน บ้างก็ออกไปเล่นกับเพื่อนแถวบ้าน หรือบางทีก็นอนดูทีวี ไม่ต้องมาเคร่งเครียดอยู่กับตำราเรียนเหมือนเด็กในปัจจุบันซึ่งแทบจะไม่มีเวลาส่วนตัว หรือไม่มีเวลาที่จะได้เล่นกับเพื่อนเลย ทำให้เด็กสมัยนี้แทบจะไม่ได้ใช้ชีวิตในวัยเด็กอย่างมีความสุข เพราะทั้งวันจะมีแต่การเรียนเพียงเท่านั้น ซึ่งสิ่งนี้เองจะทำให้เด็กเกิดความเครียดมากเกินไป เด็กจะมีความคาดหวังไว้สูงเกี่ยวกับการเรียน และเมื่อผิดหวังก็มักจะทำใจไม่ได้และเป็นสาเหตุของการฆ่าตัวตาย

เราจะเห็นได้ว่าในสมัยนี้ยิ่งเป็นเด็กนักเรียนในกรุงเทพ จะเริ่มเรียนพิเศษกันตั้งแต่เด็กอนุบาลแล้ว ซึ่งเราสามารถดูได้จากโรงเรียนที่เปิดคอร์ดให้เรียนเสริม ซึงจะมีการรับเด็กตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป ซึ่งผู้ปกครองส่วนใหญ่ต่างก็บอกว่าเพื่อต้องการให้ลูกสามารถเข้าเรียนที่โรงเรียนดีดี มีครูเก่งเก่งสอน ในอนาคตก็จะได้มีงานทำที่ดี

เพราะการแข่งขันการเข้าทำงานตอนนี้ก็มีการแข่งขันที่สูงเช่นกัน เนื่องจากจำนวนคนสมัครงานกับตำแหน่งที่ว่างงานไม่เพียงพอกัน เด็กจบใหม่จึงตกงานกันเยอะ ดังนั้นการเรียนในตอนนี้จึงไม่ได้ต้องการแค่เด็กที่มีความรู้เท่านั้น แต่ต้องมีความรู้มาก และจบมาจากโรงเรียนที่มีชื่อเสียงจึงจะสามารถหางานทำได้ง่ายและมีเงินเดือนสูง ซึ่งสิ่งนี้เองที่ว่าทำไมตอนนี้เด็กไทยจึงต้องเรียนพิเศษกันมากขึ้น และเรียนกันไปเพื่ออะไร  

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันบอลฝากขั้นต่ำ 100

 

Continue Reading