เด็กชายวัย 8 ขวบถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายดับ อ้างเด็กเกเร

      ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายดับ  เมื่อวันที่ 20 เดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจสภหนองแคจังหวัดสระบุรีได้รับแจ้งเหตุจากทางโรงพยาบาลหนองแคว่ามีเด็กอายุ 8 ขวบถูกทำร้ายร่างกายและถูกส่งตัวมารักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

  เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงก็พบกับแม่ของเด็กชายวัย 8 ขวบพร้อมกับพี่สาวโดยทั้งคู่ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า  ผู้ที่ลงมือก่อเหตุเด็กชายวัย 8 ขวบนั้นเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กเองซึ่งในขณะนี้ได้ทำการหลบหนีออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

          หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเรื่องจึงรีบประสานงานตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามท้องถนนเพื่อตรวจสอบช่องทางการหลบหนีพบว่าผู้ก่อเหตุนั้นขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปเส้นทาง

ซึ่งคาดว่าน่าจะไปทางจังหวัดในภาคใต้จึงได้มีการประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจทอมที่อื่นๆให้ช่วยสกัดจับจนคนร้ายไปถึงตรงบริเวณถนนเพชรเกษมซึ่งอยู่ตรงอำเภอกุยบุรีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จึงได้เข้าควบคุมตัวและนำมาส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภหนองแคหลังจากนั้นก็เข้าทำการสืบสวนสอบสวน

          โดยทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยงของตนเองจนเสียชีวิตจริงซึ่งมีการเล่าว่าเมื่อวันที่ 19 เดือนตุลาคม ปีพ.ศ. 2564

ช่วงเวลาประมาณสองทุ่ม นายวิรัตน์ได้ดื่มเหล้าแล้วเมาหลังจากนั้น ก็ได้มัดลูกเลี้ยงไว้กับคือบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ใช้สายไฟเฆี่ยนตีจนลูกเลี้ยงสงบหลังจากนั้นนายวิรัตน์ก็เข้านอนโดยที่ไม่ได้แก้ชื่อให้กับลูกเลี้ยง 

        อย่างไรก็ตามนายวิรัตน์กล่าวว่าหลังจากไปนอนแล้วช่วงเวลาเที่ยงคืนในเวลาตื่นขึ้นมาพบว่าลูกเลี้ยงยังยืนหลับข้าคืออยู่เขาตั้งปลุกให้ลูกเลี้ยงตื่นขึ้นมาหลังจากนั้นก็ปวดเชือกแล้วให้ลูกเลี้ยงฉี่ใส่ขวดเมื่อ 4 เสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็บังคับให้ลูกเลี้ยงกินฉี่ของตนเองซึ่งระหว่างนั้นเขาก็ทำการตีลูกเลี้ยงไปหลายครั้ง

โดยใช้ทั้งมือและเท้าจนลูกเลี้ยงทนไม่ได้และสลบไปเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็มีการนำลูกเลี้ยงไปในห้องน้ำเพื่อจะเอาน้ำราดปลุกให้ลูกเลี้ยงตื่นแต่เด็กไม่มีปฏิกิริยาเขาจึงได้ไปปลุกแม่เด็กซึ่งนอนหลับอยู่ในห้องนอนแล้วให้แม่เด็กพาเด็กไปโรงพยาบาลประจำอำเภอซึ่งเมื่อไปถึงเด็กก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา

         หลังจากนั้นเขาจึงได้ทำการหนีโดยขี่รถมอเตอร์ไซค์หวังว่าจะไปซ่อนตัวทางภาคใต้แต่ก็มาถูกจับกุมก่อนทั้งนี้นายวีระซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงยืนยันว่าทุกครั้งที่เขามีการตีเด็กนั้นเขาทำด้วยสติสัมปชัญญะที่ครบถ้วนไม่ได้เมามายแต่สาเหตุที่ต้องทำร้ายเด็กนั่นก็เพราะว่าเด็กนั้นดื้อไม่ยอมเชื่อฟัง 

 

สนับสนุนโดย.  ufabet ฝากเงิน ออโต้

Continue Reading

เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม ท้ายเขื่อนได้รับความเดือดร้อน

เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม ซึ่งตอนนี้น้ำเหนือก็ยังคงไหลหลากลงมาสู่ของเจ้าพระยาตอนนี้ก็ได้มีการเร่งระบายน้ำออกมาอย่างต่อเนื่องหลายจังหวัดต้องเฝ้าระวังเหตุน้ำท่วมสูงนั่นเอง ขณะที่จังหวัดอ่างทองชาวบ้านเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันต้องขนย้ายของขึ้นไปไว้บนที่สูง 

เนื่องจากว่าไปพบเจอน้ำผุดออกมาจากใต้แนวเขื่อนกลัวว่าน้ำจะทะลักเข้ามาท่วมภายในชุมชนแล้วก็บ้านเรือนของพวกเขานั้นเองโดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาท่าแร่ หมู่ที่ 4 ตำบลย่านซื่ออำเภอเมืองจังหวัดอ่างทอง ได้เกิดน้ำผุดทะลักขึ้นมาใต้แนวเขื่อนและตามรอยแตกแยกต่างๆของสันเขื่อนที่ชำรุดอยู่หลายจุดก็จะเริ่มเห็นมีปริมาณน้ำไหลทะลักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอเครื่องจักรและรถแบคโฮลงพื้นที่พร้อมกับนำดินเสริมทำเป็นคันแนวกั้นน้ำและใช้กระสอบทรายไปอุดบริเวณที่มีน้ำไหลทะลักเบื้องต้นอุดน้ำไปได้ชั่วคราวแล้วแต่ก็ต้องเฝ้าระวังกันตลอด 24 ชั่วโมง 

นอกจากนี้ทางกำนันผู้ใหญ่บ้านก็ได้รีบแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เก็บของเคลื่อนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นไปไว้บนที่สูง ซึ่งชาวบ้านต่างก็ช่วยกันขนย้ายทรัพย์สินไปอยู่ที่บนศาลาวัดโบสถ์ย่านซื่อ 

ส่วนพระเณรก็ได้ช่วยกันคนละไม้คนละมือช่วยเร่งขนย้ายทรัพย์สินเข้ามาไว้ภายในวัดขึ้นมาไว้บนศาลาและนำรถยนต์เอาไปจอดไว้บนไหล่ถนนด้วยหากในจุดนี้มีน้ำทะลักท่วมเข้ามาก็จะมีชาวบ้าน3 หมู่บ้านที่ตำบลย่านซื่อได้รับความเดือดร้อนประมาณ 800 หลังคาเรือนด้วยกัน

ส่วนสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาทจุดนี้ถือว่ามีความสำคัญมากเลยจริงๆล่าสุดนี้ได้มีรายงานว่าเขื่อนเจ้าพระยายังคงเร่งระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อนเพราะว่าอีกไม่นานก็จะเข้าสู่ช่วงน้ำทะเลหนุนสูงประมาณวันที่ 15 ตุลาคม 64

ดังนั้นทางด้านกรมชลประทานต้องรีบผลักดันน้ำลงทะเลให้ได้มากที่สุดเพื่อจะรองรับมวลน้ำจากทางภาคเหนือที่จะไหลหลากลงมาสมทบอีกในสัปดาห์หน้าจำเป็นจะต้องเตรียมรับมือกับมวลน้ำระลอกใหม่ด้วยนั่นเองเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อไป

ล่าสุดนี้เขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับการระบายจาก 2,779ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีขยับขึ้นมาเป็น 2,801ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีแล้วแบบนี้ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตอนนี้เราจะเห็นได้ว่ามีกระสอบทรายนำมาวางไว้เป็นจุดๆชาวบ้านได้เร่งรีบนำเอามาวางไว้ที่บริเวณท้ายเขื่อน

อย่างในตำบลหาดอาษาและตำบลโพนางดำออกตอนนี้หลายจุดได้พังเสียหายจุดที่ประชาชนได้วางกระสอบทรายก็ได้รับความเสียหายน้ำได้ทะลักเข้าท่วมชุมชนแล้วทำให้ประชาชนขนข้าวของขึ้นมาอาศัยอยู่ริมถนนชัยนาทอินทร์บุรี อีกทั้งการระบายน้ำสูงต่อเนื่องแบบนี้ส่งผลทำให้ระดับน้ำในที่ลุ่มจังหวัดสิงห์บุรีอ่างทองและพระนครศรีอยุธยาอยู่ในระดับที่สูงขึ้นด้วย

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ฝาก-ถอน ออ โต้ จีคลับ

Continue Reading

เตือนภาคกลางน้ำเหนือมาแล้วเจ้าพระยาน้ำสูงต่อเนื่อง

เตือนภาคกลางน้ำเหนือมาแล้ว ซึ่งวันนี้ได้มีรายงานเรื่องของฝนตกหนักโดยเฉพาะทางตอนบนของประเทศและในช่วงที่น้ำไหลมาทำให้พื้นที่ตอนกลางอย่างเช่นที่เขื่อนเจ้าพระยาในจังหวัดชัยนาทจำเป็นจะต้องมีการปรับแผนในการระบายน้ำเพิ่มเติมไปอยู่ที่ 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

โดยตรงนี้แน่นอนแล้วว่าการที่มีการปล่อยน้ำออกมาจำนวนเพิ่มขึ้นแบบนี้จะส่งผลทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำแล้วก็พื้นที่ที่อยู่บริเวณท้ายเขื่อนได้รับผลกระทบตามมาจึงมีการแจ้งเตือนล้วงหน้าและตอนนี้ก็ได้มีการประกาศแจ้งเตือนในหลายพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลยพื้นที่ลุ่มต่ำที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่อำเภอเสนาและอำเภอผักไห่ด้วย

เพราะว่าเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำน้อยมักจะประสบปัญหาน้ำท่วมสูงในช่วงที่น้ำเหนือมีปริมาณค่อนข้างมากก็ให้ระมัดระวังเตรียมรับมือกับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป15-18กันยายนนี้น้ำจะท่วมสูงขึ้น0.75เมตรจากปัจจุบันนี้เลย

ซึ่งถือว่าเป็นการแจ้งเตือนเลยสำหรับประชาชนจะได้มีเวลาในการที่จะขนของย้ายไปไว้บนที่สูงเพื่อความปลอดภัยกันก่อนโดยทางกรมชลประทานได้แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สูงขึ้นหลังจากที่มีการรายงานฝนตกหนักทางพื้นที่ตอนบนของประเทศ

เพราะฉะนั้นก็เลยทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงกับแม่น้ำน่านมีน้ำมากขึ้นอย่างแม่น้ำปิงตอนนี้ระดับน้ำอยู่ที่กว่า 37 เมตร ซึ่งถือว่าจากระดับนี้ยังสามารถรับน้ำได้อีกสูงประมาณ2เมตรครึ่งเช่นเดียวกับแม่น้ำน่านระดับน้ำอยู่ที่ประมาณเกือบๆ25เมตร

ตรงจุดนี้ยังสามารถรับน้ำได้อีกประมาณ3เมตรกว่าๆ ส่วนสถานีวัดน้ำC2ที่จังหวัดนครสวรรค์โดยจุดนี้เป็นจุดที่รับน้ำปิงกับน้ำน่านก่อนที่จะไหลรวมกันในแม่น้ำเจ้าพระยาปรากฎว่าได้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นล่าสุดเท่าที่มีการไปสำรวจตรวจสอบระดับน้ำอยู่ที่22เมตรและยังสามารถรับน้ำได้อีกประมาณ4เมตร

โดยมีน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,800-1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเพราะฉะนั้นในพื้นที่ต่อไปก็จำเป็นจะต้องปรับแผนระบายน้ำโดยเฉพาะในช่วงที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาทให้อยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

แต่แน่นอนว่าการปล่อยน้ำออกมาในอัตราเท่านี้จะส่งผลทำให้ระดับน้ำแถวๆท้ายเขื่อนมีระดับที่สูงขึ้นจึงมีการแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือยกตัวอย่างเช่นบริเวณทุ่มต่ำริมแม่น้ำน้อยในตำบลบ้านกระทุ่งกับอีกที่นึงตำบลท่าดินแดงอำเภอผักไห่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

จึงคลาดว่าหลังจากนี้ระดับน้ำหน้าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกประมาณซัก75เซ็นติเมตรในช่วงตั้งแต่วันที่15ถึง18กันยายนนี้ทีนี่เพื่อเป็นการชะรอน้ำในบางส่วนก่อนที่จะเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเจ้าหน้าที่ธารณีได้ทำการทุบประตูน้ำที่บริเวณปากคลอง บึงบอระเพ็ดที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำน่าน

 

สนับสนุนโดย.  สมัคร sbobet โดยตรง

Continue Reading

จีนประณาม อูคุส ยุคสงครามเย็น

นอกจากจะทำให้จีนไม่พอใจแล้วนักวิเคราะห์ยังมองว่าจะสร้างการแข่งขันทางทหารอย่างมากเลยในภูมิภาคนี้และนอกจากนี้ก็อาจจะทำให้ชาติพันธมิตรสหรัฐสหราชอาณาจักรแล้ว  จีนประณาม อูคุส ยุคสงครามเย็น ก็ออสเตรเลียไม่พอใจแล้วก็หมางเมินรู้สึกแตกแยกได้เช่นกัน 

ซึ่งนักวิเคราะห์ได้มองว่า สหรัฐสหราชอาณาจักรแล้วก็ออสเตรเลียได้ทำข้อตกลงสนธิสัญญา อูคุส ด้วยการ เพื่อแบ่งปันเทคโนโลยีทางความมั่นคงเพื่อคานอำนาจกับจีนก็คือว่าความกังวลถึงอำนาจของจีนในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจการเมืองแล้วก็ด้านทางทหารที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก 

นั่นมันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ปูทางมาจนสู่การทําสนธิสัญญา อูคุส ครั้งนี้

และหนึ่งในข้อตกลงย่อยในสนธิสัญญานี้ที่พิเศษเลยก็คือว่าจะแบ่งปันเทคโนโลยีในการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ให้กับออสเตรเลียด้วยทำให้ออสเตรเลียจะได้มีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของตัวเองลำแรก 

นอกจากนี้ความพิเศษของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์นี้มีความเร็วและเป็นการยากที่จะตรวจจับได้เพราะเคลื่อนที่ได้เงียบกว่าเรือดำน้ำแบบดั้งเดิมสามารถดำรงไปได้นานหลายเดือนเดินทางได้ไกลบรรทุกน้ำหนักได้มากกว่าเดิมอีกด้วย

โดยออสเตรเลียถือว่าเป็นชาติที่ 2 ต่อจากสหราชอาณาจักรเลยที่สหรัฐแบ่งปันเทคโนโลยีดังกล่าวให้และเป็นการแบ่งปันเทคโนโลยีนี้จากสหรัฐครั้งแรกในรอบ 50 ปีด้วยดังนั้นหากออสเตรเลียมีเรือดำน้ำประเทศนี้ไว้ในครอบครองจึงถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสหรัฐในภูมิภาคนี้ 

เมื่อทั้งสามชาติได้ประกาศเรื่องนี้ออกมาเมื่อวานนี้ทางประเทศจีนเองก็แสดงท่าทีไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดเลยโดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกมาประนามความร่วมมืดดังกล่าวในทันทีระบุว่าหลายชาติไม่ควรมีการจับมือกัน 

เพื่อกีดกันประเทศใดๆและนี่จึงเป็นยุคสงครามเย็นที่ล้าสมัยไปแล้วพร้อมกับระบุว่าการส่งออกเทคโนโลยีเรือดำน้ำเดี๋ยวเคลียร์ที่เป็นความลับจากสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรไปยังออสเตรเลียพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าพวกเขาใช้การส่งออกนิวเคลียร์เป็นเครื่องมือในเกมยุทธศาสตร์และเป็นการปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐาน

ซึ่งถือว่าหลายความรับผิดชอบเป็นอย่างยิ่งศาสตราจารย์ Super คณบดีคณะวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมหาวิทยาลัยหนานจิงได้ระบุว่าสหรัฐกำลังใช้กลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จในยุคของสงครามเย็นเมื่อครั้งอดีตสหภาพโซเวียตล่มสลายพวกเขาต้องการบังคับให้จีนเข้าร่วมการแข่งขันอาวุธ

แต่ว่าจีนไม่ควรตกหลุมพรางดังกล่าว นอกจากนี้จะเป็นการคุกคามต่อเสถียรภาพของภูมิภาคด้วยพร้อมกับตั้งคำถามด้วยว่าแล้วสิงคโปร์มาเลเซียอินโดนีเซียเกาหลีใต้จะพอใจเรื่องนี้หรือไม่ที่ออสเตรเลียจะนำเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์เข้าไปยังน่านน้ำของพวกเขา

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    gclub slot ทดลองเล่น

Continue Reading