ผู้หญิงคิดเป็นหนึ่งในสี่หรือน้อยกว่าของคนงานในคอมพิวเตอร์และวิศวกรรม

คอมพิวเตอร์และวิศวกรรม อาจจะมองได้ว่าผู้หญิงนั้นมีบทบาทมากเกินไปในงานที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ผู้หญิงใน STEMที่วิเคราะห์นั้น แตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่มงาน ในปี 2019 คนงาน 19.1 ล้านคนที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปได้รับการว่าจ้างในอาชีพ STEM ในสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านคนตั้งแต่ปี 2016

ผู้หญิงคิดเป็นครึ่งหนึ่ง (50%) ของผู้ที่ได้รับการว่าจ้างงาน STEM ซึ่งสูงกว่าส่วนแบ่งในแรงงานโดยรวม (47%) เล็กน้อย

ตัวแทนของผู้หญิงในกลุ่มอาชีพ STEM นั้นแตกต่างกันอย่างมาก พวกเขามีตัวแทนมากเกินไปในงานที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ กลุ่มอาชีพ STEM ที่ใหญ่ที่สุด และมีบทบาทน้อยกว่าในกลุ่มอาชีพอื่นๆ หลายกลุ่ม

การเป็นตัวแทนของผู้หญิงในกลุ่มอาชีพ STEM หกกลุ่มไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 2559 ผู้หญิงเป็น 74% ของผู้ปฏิบัติงานด้านการดูแลสุขภาพและช่างเทคนิค เทียบกับ 75% ในปี 2559 ผู้หญิงคิดเป็น 25% ของผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ส่วนแบ่งของผู้หญิงในกลุ่มอาชีพที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้ลดลงจากปี 2000 เป็น 2016

และยังคงทรงตัวตั้งแต่นั้นมาและยังมีการแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงยังคงมีบทบาทน้อยกว่าในงานด้านวิทยาศาสตร์กายภาพ คอมพิวเตอร์ และวิศวกรรม ผู้หญิงยังคงมีบทบาทต่ำมากในกลุ่มวิศวกรและสถาปนิก (15%) แต่สัดส่วนของพวกเธอเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 14% ในปี 2559

ผู้หญิงคิดเป็น 40% ของนักวิทยาศาสตร์กายภาพของประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้น 1 จุดเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 2559 พวกเธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ชีวิต 48% เทียบกับ 47% ในปี 2559 ตัวแทนของผู้หญิงในกลุ่มนักคณิตศาสตร์ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน (46% เป็น 47%)

มีความแตกต่างบางอย่างในการเป็นตัวแทนของผู้หญิงในงานที่ประกอบด้วยแต่ละกลุ่มเหล่านี้ ผู้หญิงได้เพิ่มส่วนแบ่งการจ้างงานในอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพระดับสูงบางอาชีพ ผู้หญิงเป็นแพทย์และศัลยแพทย์ 38% เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์จากปี 2559 พวกเธอเป็นทันตแพทย์ 33% เพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์จากปี 2559

ในบรรดานักทัศนมาตร 46% เป็นผู้หญิง เพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์จากปี 2559 ผู้หญิงเป็น 64% ของ สัตวแพทย์เพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์จากปี 2559 และผู้หญิงคิดเป็น 33% ของ EMTs และแพทย์ เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์จากปี 2559 นอกจากนี้ ส่วนแบ่งของผู้หญิงที่ทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์บรรยากาศและอวกาศ (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาชีพนักวิทยาศาสตร์กายภาพ)

เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 15% ในปี 2559 เป็น 24% ในปี 2562 คนงานเชื้อสายฮิสแปนิกและคนผิวดำยังคงมีบทบาทน้อยกว่าในกลุ่มพนักงาน STEM ในขณะที่คนงานผิวขาวและเอเชียมีบทบาทมากเกินไป พนักงานชาวสเปนมีบทบาทน้อยมากในแรงงาน STEM ซึ่งคิดเป็น 8% ของคนงาน STEM แต่เป็น 17%

ของการจ้างงานทั้งหมดในทุกสายอาชีพ การปรากฏตัวของพวกเขาเพิ่มขึ้นหนึ่งจุดเปอร์เซ็นต์ในแต่ละกลุ่มอาชีพ STEM หกกลุ่มตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตในกลุ่มแรงงานที่กว้างขึ้น

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    Ufabet เข้าสู่ระบบ

Continue Reading

WHOเตือนคน3กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตจากโอมิครอน

WHOเตือนคน3กลุ่ม นอกจากนี้ทาง ดร. ผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยละอองฝอยและเป็นหัวหน้าผู้ศึกษางานวิจัยชิ้นนี้ได้บอกว่าหลายคนมักจะโทษ การติดเชื้อโควิค 19 มันเกิดมาจากสถานที่ที่อากาศไม่ถ่ายเทหรืออาจจะคิดว่าเชื้อมันจะสามารถแพร่กระจายไปได้หลายเมตรทั่วห้อง 

ซึ่งเรื่องนี้ทางศาสตราจารย์โจนาธานได้บอกว่ามันเกิดขึ้นจริงเฉพาะในบางกรณีเท่านั้นแต่ว่าในความเป็นจริงแล้วการติดเชื้อส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากการที่เราไปสัมผัสไปใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื้อเสียมากกว่า 

เพราะฉะนั้นแล้วถ้าหากว่าเราสวมหน้ากากอนามัยละเว้นระยะห่างจากบุคคลอื่นๆก็จะทำให้ตัวเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โอกาสจากการติดเชื้อไวรัสต่างๆก็จะน้อยลงตามไปด้วยเช่นกัน

ในขณะเดียวกันในมุมมองของศาสตราจารย์นายแพทย์มานพพิทักษ์ภากรที่เป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานวิจัยในชิ้นนี้ ว่า covid-19 ไม่ได้มีโอกาสจะติดกันได้ง่ายๆ 

ดังนั้นแล้วผลงานวิจัยในครั้งนี้จึงบอกว่าเชื้ออาจจะตายหรือว่าอ่อนฤทธิ์ลงได้เมื่ออยู่ในอากาศประมาณ 20 นาทีปัจจัยที่ทำให้ติดเชื้อได้มากที่สุดก็คือเข้าใกล้ชิดกับคนติดเชื้อหรือว่าผู้ป่วย

ในระยะใกล้ก็คือ 1-2 เมตร แล้วสัมผัสผ่านทางลมหายใจหรือสัมผัสผ่านละอองฝอยแบบใกล้ชิดจริงๆ แต่ถ้าหากว่าเรายังคงปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดก็คือสวมหน้ากากอนามัยเว้นระยะห่างลดการไปในพื้นที่เสี่ยง

ตรงนี้ยังสามารถป้องกันการติดเชื้อได้แม้ว่าโควิค 19 กลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนที่มีการแพร่กระจายได้แล้วในตอนนี้ก็ตามก็ยังสามารถป้องกันได้ด้วยที่สำคัญยังบอกว่าความสำคัญของเชื้อโควิคไม่สำคัญเท่ากับการดูแลและป้องกันตัวเองและการฉีดวัคซีนตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ 

ซึ่งเชื่อว่าในอนาคต covid-19 อาจจะเป็นโรคประจำถิ่นแต่ยังไม่ใช่ในเร็วๆนี้เพราะว่าสถานการณ์การระบาดทั้งในไทยและของทั่วโลกก็ยังไม่แน่นอน

ส่วนทางผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกก็ได้ออกมาเตือนว่า covid สายพันธุ์โอมิครอนตอนนี้อย่าเพิ่งมองข้ามมันไปยังถือว่าเป็นไวรัส covid-19 ที่มีความอันตรายอยู่ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ยังไม่ได้รับการเข้ารับการฉีดวัคซีนเพราะว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่พอติดCovid-19 ไปแล้วต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลก็เป็นคนในกลุ่มนี้ที่ไม่ยอมรับการฉีดวัคซีน

ในขณะที่นายแพทย์ไมไบรอันผู้อำนวยการโครงการสาธารณสุขฉุกเฉิน WHOได้เปิดเผยว่า มีกลุ่มคน 3 กลุ่มด้วยกันคือ 1 กลุ่มคนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน 2 ก็คือกลุ่มของผู้สูงอายุ 3 คือกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว 

ทั้ง 3 กลุ่มนี้จะถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงแต่ว่าคนที่ไม่ได้รับการเข้าฉีดวัคซีนเลยเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากที่สุดที่อาจจะเกิดการเจ็บป่วยอย่างรุนแรงและอาจจะทำให้ถึงเสียชีวิตจากการติดเชื้อแม้กระทั่งสายพันธุ์โอมิครอนได้ด้วย

 

สนับสนุนโดย.  Ufabet เข้าสู่ระบบ

Continue Reading

เยเมน (Yemen) ดื่มด่ำความงดงาม แห่งเมืองซานา คาบสมุทรอาหรับเยเมน

มันมีปัญหาต่างๆมากมายที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภาวะโลกร้อนปัญหามลพิษทางอากาศสิ่งที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติธรรมชาติ  เยเมน (Yemen) ดื่มด่ำความงดงาม สิ่งที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์และแน่นอนว่าปัญหาที่เราจะพูดถึงในวันนี้มันก็คือปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหารในประเทศต่างๆนั่นเอง 

ซึ่งประเทศที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้มัน ก็คือ เยเมน สำหรับประเทศ เยเมนแล้วไม่ใช่ประเทศเดียวที่เกิดปัญหาดังกล่าวนี้แต่มันยังมีอีกหลายๆประเทศทั่วโลกแต่ในวันนี้ซึ่งเท่าที่เราหยิบยกขึ้นมาพูดมันเกี่ยวข้องกับประเทศเยเมน ซึ่งถ้าหากคุณอยากรู้ว่ามันน่าสนใจแค่ไหนก็ต้องลองไปทำความรู้จักมันพร้อมกัน

บางประเทศเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม และปัญหาที่เกิดจากรัฐบาล ที่เกิดจากสงคราม ปัญหาที่เกิดจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นมาแล้วส่งผล ทำให้การจัดสรรอาหารมีอุปสรรคเป็นอย่างมาก การผลิตสารอาหารที่เพียงพอต่อประชากรและผู้บริโภคเป็นสิ่งที่ยากมากๆเลยทีเดียว 

มันจะต้องอาศัยปัจจัยหลายๆอย่างเข้ามาช่วย  ในประเทศที่เกิดปัญหาและภาวการณ์ขาดแคลนอาหาร ก็เป็นเรื่องราวของประเทศที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้ ก็คืออีกหนึ่งประเทศที่มีความอดอยากเป็นอย่างมาก  ประชาชนทุกคนต่างก็อดอยากจากการขาดสารอาหารเป็นจำนวนไม่น้อยเลยในแต่ละปี 

ซึ่งประเทศดังกล่าว คือ ประเทศเยเมนนั้นเอง  เยเมนเป็นประเทศที่มีปัญหาต่อเนื่องมายาวนาน  และถูกจัดให้อยู่ในประเทศที่มีวิกฤตด้านมนุษยธรรมร้ายแรงที่สุดในโลก  ผู้คนกว่า 20 ล้านคนต้องขาดแคลนอาหารโดย 10 ล้านคนนั้น  อยู่ในขั้นเลวร้ายในการประเมินเอาไว้ว่าประชากรราว 7.4 ล้านคนที่ ต้องเจอกับภาวะเกี่ยวกับโภชนาการและใน 2 ล้านคนนั้นก็เป็นเด็กด้วย 

ด้วยเหตุนี้เองจึงประกาศว่าเยเมนเป็นประเทศที่มีภัยความมั่นคงทางอาหารเลวร้ายที่สุด นอกจากเยเมนแล้วมันก็มีประเทศอื่นๆอีกมากมายที่ต้องประสบพบเจอกับปัญหาดังกล่าวนี้การขาดแคลนสารอาหารและการจัดสารอาหารให้เพียงพอต่อผู้บริโภคในประเทศนั้นต้องประสบพบเจอกับปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ไม่สามารถทำอะไรได้ 

เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรตามที่ต้องการ  ภาวะภัยแล้งต่างๆทำให้ไม่สามารถทำการเกษตรได้  แน่นอนว่าอย่างไรก็ตามนอกจากนี้แล้วมันก็ยังมีปัญหาอื่นๆตามมาไม่ว่าจะเป็นปัญหาสงครามการเมือง  ปัญหาการระบาดของเชื้อโรคต่างๆ  ก็มีส่วนด้วยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันเป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากพบเจอเลยแม้แต่น้อย 

แต่ในบางครั้งมันก็ไม่สามารถที่จะห้ามได้เพราะมันเป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้กำหนดเอาไว้แล้ว และที่สำคัญประเทศเหล่านี้ ถือเป็นประเทศด้อยพัฒนา การผลิตเวชภัณฑ์ด้าน ยารักษาโรคจึงไร้ประสิทธิภาพด้วย

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  Ufabet เข้าสู่ระบบ

Continue Reading

สาวเพิ่งแต่งงานระบายกับเพื่อน  ครอบครัวสามีกินกับข้าวมื้อละ 4 อย่างเยอะไปหรือไม่ ?

          เมื่อวันที่ 20 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2564  ได้มีผู้ใช้ Pantip รายหนึ่งได้เข้ามาสอบถามคนในโลกออนไลน์ โดยเขาเกิดความสงสัยเกี่ยวกับครอบครัวของคนไทยในปัจจุบันว่าบางครอบครัวนั้นมีความต้องการในการกินอาหารแต่ละมื้อนั้นค่อนข้างที่จะต้องใช้กับข้าวหลายอย่างซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองโดยเขาได้เล่าในพันทิปว่าเพื่อนสาวของเขาเพิ่งแต่งงานไปแล้วมาเล่าให้เขาฟังว่าครอบครัวของสามีเธอนั้นมีการกำหนดเกี่ยวกับเรื่องของอาหารในแต่ละมื้อจะต้องมีกับข้าวไม่ต่ำกว่า 4 อย่างและในกับข้าวนั้นจะต้องมีทั้งแกงและของทอดรวมถึงน้ำพริกทุกมื้อด้วย

           ที่สำคัญกับข้าวทุกอย่างถ้าหากว่าซื้อมาทุกคนในครอบครัวจะไม่มีใครกินโดยทุกคนต้องการที่จะให้มีการทำอาหารกินเองภายในครอบครัวเท่านั้นทำให้เพื่อนสาวของเขานั้นรู้สึกไม่เข้าใจเนื่องจากว่าตัวเพื่อนสาวของเขาเองนั้นกับข้าว 1 อย่างเธอก็สามารถกินได้จึงทำให้เขาเกิดความรู้สึกสงสัยเช่นเดียวกันว่าทำไมบางครอบครัวถึงต้องซีเรียสเกี่ยวกับจำนวนของอาหารในแต่ละมื้อด้วย

        อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการเผยแพร่ข้อความที่เป็นคำถามนี้ออกไปคนในพันทิปส่วนใหญ่ก็เข้ามาตอบคอมเมนต์นี้กันอย่างหลักหลายซึ่งบางคนนั้นระบุว่าสำหรับคนรุ่นใหม่ปัจจุบันนั้นจะนิยมการกินอาหารกล่องเพราะสะดวกและรวดเร็วจึงค่อนข้างที่จะไม่ค่อยเข้าใจกับคนที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ว่าทำไมต้องกินอาหารหลายอย่างแต่ในขณะเดียวกันหากใครที่เคยอยู่ในครอบครัวใหญ่จะรู้ว่าการทำอาหารกินเองนั้นจะช่วยให้ประหยัดและที่สำคัญสามารถควบคุมความสะอาดและรสชาติของอาหารไม่ถูกปากคนในครอบครัวได้ด้วย

      ทั้งนี้คนในโลก Pantip ยังระบุอีกด้วยว่าปัจจุบันนี้มีหลายบ้านที่ยังคงใช้ชีวิตกันแบบครอบครัวอยู่ไหนและทำอาหารกินกันในครอบครัวยิ่งเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นการทำอาหารกินเองจะทำให้ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส covid ได้ดีเพราะเราสามารถที่จะควบคุมความสะอาดไม่ต้องกังวลเรื่องของการออกไปซื้อกับข้าวกินนอกบ้านอีกด้วย 

     อย่างไรก็ตามสำหรับการกินอาหารในยุคปัจจุบันนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของคนแต่ละคนบางคนเลือกที่จะกินอาหารกับข้าวอย่างเดียวก็สามารถอยู่ได้แต่บางคนก็ต้องการให้มีกับข้าวหลายอย่างเพื่อให้อาหารนั้นไม่ดูน่าเบื่อจนเกินไปและได้สารอาหารที่ครบถ้วนนั้นเอง และสำหรับการที่อยู่กับครอบครัวใหญ่ก็ควรจะทำตามกฎของครอบครัวจะดีที่สุด เพื่อเลี่ยงปัญหาความไม่พอใจของคนในครอบครัว

 

 

สนับสนุนโดย    Ufabet เข้าสู่ระบบ

Continue Reading