จ. ลำปาง อากาศเริ่มเย็น ซึ่งทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนออกมาประกาสยืนยันว่าในปีนี้น่าจะหนาวยาวนานกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอนแล้วก็ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ประเทศไทยตอนบนก็จะมีอากาศที่หนาวเย็นก็ได้มีการคลาดการณ์กันเอาระยะสั้นก่อนตั้งแต่ช่วงวันที่19จนถึงวันที่23ตุลาคมนี้อากาศจะเริ่มหนาว

โดยจะหนาวทั้งพื้นที่ทางภาคเหนือภาคอีสานอุณหภูมิจะเห็นได้ว่าประมาณ20องศาด้วยกันอย่างเช่นกรุงเทพเขาบอกว่าอาจจะมีอากาศหนาวต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ19องศาทีนี้ในช่วงของยอดดอยยอดภ๔รวมไปถึงเทือกเขาอาจจะมีอากาศหนาวจนถึงหนาวจัดบางวันอาจจะได้เห็นน้ำค้างแข้งด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ไปดูบรรยากาศที่ทางจังหวัดลำปางกันก่อนเลยที่ลำปางจะเรียกว่าหนาวมากก็ยังไม่ถึงเรียกวส่าหนาวกำลังดีในจังหวัดลำปางเช้าเมื่อวันนี้สภาพอากาศเริ่มเย็นสบายโดยบริเวณพื้นราบอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ21-23องศาเซลเซียสมีหมอกเกิดขึ้นบางแห่ง

โดยในภาพนั้นจะเป็นที่บริเวณชุมชนในตำบลกล้วยแพะอำเภอเมืองจังหวัดลำปางก็เห็นหมอกสีขาวและทุ่งนาที่เขียวขจีนับเป็นภาพที่สวยงามของธรรมชาติในช่วงของเช้าวันนี้ สถานีกรมอุตุนิยมวิทยาจังหวัดลำปางวัดอุณหภูมิพื้นราบช่วงเช้าเมื่อวานนี้อยู่ที่ประมาณ22องศา

ส่วนตัวเมืองลำปางวัดได้อยู่ที่22.3องศาเซลเซียสจากสภาพอากาศที่เย็นสบายชาวลำปางได้ถามถึงฤดูหนาวกันแล้วเพราะว่าสภาพอากาศแบบนี้เหมาะกับการออกไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่างๆนั่นเองบรรยากาศก็เหมาะ

ขณะที่ทางข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา คุณณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ เปิดเผยว่าตามที่ได้คลาดการณ์ว่าจะออกประกาสเรื่องของการเริ่มต้นฤดูหนาวของประเทศไทยของปี2564

ช่วงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ปัจจุบันมีหลายพื้นที่อุณหภูมเริ่มลดลงแล้วโดยเฉพาะบริเวณตอนบนของประเทศ

ดังนั้นยังไม่สามารถที่จะคาดการณ์อุณหภูมิต่ำสุดของฤดูหนาวปีนี้ได้อย่างชัดเจนแต่ประเมินว่าในปีนี้จะหนาวยาวนานกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน

โดยบริเวณภาคเหนือเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่องส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะได้สัมผัสอากาศเย็นช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม2565

โดยทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีการคาดหมายลักษณะอากาศประจำเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นมาถึงโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือและยังคงมีฝนฟ้าคะนองเป็นบางแห่งและบางวัน

ส่วนบริเวณยอดดอยยอดภูมิรวมทั้งเทือกเขาก็จะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางวัดโดยเนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแพร่ลงมาปกคลุมภาค

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ

สำหรับเรื่องธุรกิจข้าวสาร ได้มีโพสต์ของชายคนหนึ่งในเว็บไซต์ pantip.com  เจ้าของโรงแรมธุรกิจพัง ได้รับความสนใจจากผู้ใช้เว็บพันทิปอย่างกว้างขวางเป็นเรื่องของเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งที่เป็นคนทำธุรกิจโรงแรมท่องเที่ยวแถวบริเวณถนนข้าวสาร

โดยโรงแรมเป็นโรงแรมขนาดกลางขนาด 25 ห้องพักโพสในกระทู้ Pantip

ที่มีชื่อว่าทำอย่างไรเหลือเงินสดก้อนสุดท้ายแล้ว โดยได้กล่าวว่าทำโรงแรมมาแล้วขนาด 25 ห้องพักเป็นเวลา 2 ปี 2 ปีมาแล้วที่ไม่มีคนเข้ามาพักเปิดก็เหมือนไม่ได้เปิดเหลือพนักงานอยู่แค่เพียง 2 คนเหลือเงินเพียงแค่ก้อนสุดท้ายไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดีหมดเงินที่มีแล้วจนปัญญาจะปิดก็ปิดไม่ได้เพราะเช่ากับหน่วยงานรัฐ ทำให้ไม่สามารถปิดได้อยากจะตายก็ตายไม่ได้ 

สิ่งที่ได้ลงทุนไปมันก็จะอาจสูญเปล่าและมีภาระคู่กับคนข้างหลังเงินลงทุนก็มาจากเงินต้นทุนของทางบ้าน  www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ  และได้กล่าวว่าตนเองนั้นได้มีหนี้อยู่ประมาณ6-7 ล้านบาททรัพย์สินในรูปอสังหาริมทรัพย์รวมกัน 60 ล้านบาทแต่ไม่ใช่เงินสดบางส่วนเป็นกรรมสิทธิ์เช่า

ส่วนที่ดินเปล่านั้นทุกวันนี้จะขายก็ยังไม่มีใครสนใจรายจ่ายต่อเดือน 1แสนกว่าบาทส่วนรายรับตอนนี้ต่ำมากๆติดลบอยู่ประมาณเดือนละ 7-8 หมื่นบาทดังนั้นรายรับต่ำกว่ารายจ่ายทุกเดือนมืดมนมองไม่เห็นหนทางเหมือนกับขึงคออยู่บนไม้ในแต่ละเดือนโดนขันเชือก

ซึ่งก็ได้มีคนเข้าไปตอบคำถามกันอย่างล้นหลามว่าจะทำอย่างไรไม่ว่าจะเป็นให้นำเอาทรัพย์สินไปขายน้องคนบอกให้ไปเจรจากับแบงค์บางคนก็บอกว่าให้ยอมตัดใจยอมขาดทุนมีอะไรขายออกไปให้หมดจะได้ไม่ต้องแบกภาระหนี้สินอีกต่อไปบางคนบอกว่าต่างชาติตอนนี้อยากจะมาลงทุนในประเทศไทยก็ช่วยกันหาต่างชาติมาซื้อกันดีไหม

นอกจากนี้มันคือความทั้งหมดของความยากจนของผู้ประกอบการอันเนื่องมาจากพิษ covid-19 ที่ทอดยาวมาตลอดจากปี 63

  เจ้าของโรงแรมธุรกิจพัง จนถึงเดือนมีนาคมตอนนี้เดือนพฤษภาคม 64 จนความล่าช้าของวัคซีนนั้นทำให้คุณหมอบางรายประเมินว่ากว่าจะมีการฉีดวัคซีนได้หมดแล้วประเทศไทยเปิดประเทศได้นั้นประเทศไทยก็อาจจะต้องรอไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2565 ก็คืออีก 1 ปีหลังจากนี้ 

ซึ่งก็แปลว่าผู้ประกอบการจำนวนมากก็อาจจะหายนะเป็นเวลายาวนานเกือบ2 ปีทางออกของเรื่องนี้คืออะไรรัฐบาลใช้การกู้เงินเป็นทางออกเพราะว่าเป็นการกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไหนตอนแรกบอกว่าจะกู้ 7 แสนล้านบาท ก็โดนด่ายับทั้งประเทศ 

ปรากฏว่าก็ลดงบประมาณลงมาจนเหลือ 5แสนล้านบาทและก็เกิดคำถามต่อมาว่ากู้แล้วกู้อีก 7 ปีกู้แล้วไม่รู้จะกู้ยังไงจะเอาอย่างไรกันต่อไปก็เกิดเป็นคำถามของพรรคเพื่อไทยโดยส.ส. ของพรรค 2 คน คนที่ 1 คือคุณกฤษฎาอีกคนนึงคือคุณชนินทร์รุ่งธนเกียรติรองโฆษกพรรค